Thursday, July 22, 2021

10 พฤติกรรมทำหน้าเหี่ยวก่อนวัย และวิธีแก้ไขเพื่อลดริ้วรอย

เคยทราบหรือไม่คะว่าพฤติกรรมบางอย่างที่เราเคยทำอยู่เป็นประจำเนี่ย สามารถส่งผลเสียต่อผิวพรรณ และทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าก่อนวัยได้อย่างที่เราคาดไม่ถึงเชียวค่ะ เราจะมาดูกันว่า พฤติกรรมแบบไหนบ้างนะ ที่ทำให้หน้าเราเหี่ยวทั้งๆ ที่อายุยังไม่มากเท่าไหร่ เพื่อหาวิธีลดริ้วรอยด้วยการหลีกเลี่ยงและแก้ไขค่ะ

1. การนอนตะแคงหรือคว่ำหน้านานๆ

การนอนคว่ำหน้าหรือตะแคงหน้าในทิศทางเดียวกันตลอดทั้งคืนนั้น จะเป็นการย้ำรอยเหี่ยวย่นที่เกิดจากธรรมชาติของเราให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ส่งผลให้คอลลาเจนใต้ผิวหนังเรานั้นทำงานผิดปกติและผิดรูปผิดร่างไปด้วย ซึ่งเมื่อเป็นอย่างนี้แล้วหน้าเราจะมีริ้วบางๆ เป็นเส้นยาวๆ ขึ้นมา หรืออาจจะทำให้หน้าย่นไปเลยก็ได้นะคะ

วิธีแก้ไขเพื่อลดริ้วรอย เพียงคุณลองปรับพฤติกรรมการนอนของตัวเองดูค่ะ หากใครชอบการนอนตะแคง ก็ลองเปลี่ยนข้างดูบ้างหรือทางที่ดีคือ นอนหงายเลยค่ะ นอกจากจะไม่ส่งผลให้หน้าเหี่ยว และช่วยลดริ้วรอยแล้ว ยังเป็นท่าที่หายใจสะดวกที่สุดด้วยนะคะ

2. หน้าเหี่ยวเพราะความเครียด

สาเหตุที่ความเครียดทั้งหลาย มันมีผลกับหน้าตาของเราก็เพราะสมองเนี่ยหล่ะค่ะ ที่เป็นตัวสั่งการให้เราแสดงออกทางหน้าตา ทุกครั้งที่เราเครียด วิตกกังวล หรือไม่สบายใจหน้าเราจะบูดบึ้งจนคิ้วขมวดเข้าหากัน คือสาเหตุของการเหี่ยวย่นและริ้วรอยบนใบหน้าค่ะ

วิธีแก้ไขเพื่อลดริ้วรอย ปัญหาความเครียดเกิดมาจากความคิดของเราค่ะ เพราะฉะนั้น เรื่องบางหากสามารถปล่อยวางได้ก็ต้องปล่อยวาง หรือหากเผชิญปัญหาที่ยังแก้ไม่ตกก็ควรหาใครสักคนที่เราสามารถระบายปัญหาได้เพื่อคลายความอึดอัด เชื่อว่าปัญหาทุกอย่างสามารถแก้ได้ อยากให้ทุกคนมองโลกไปในทางที่ดีมากกว่าร้าย เพียงแค่คิดบวกก็สามารถลดริ้วรอยบนใบหน้าได้แล้วค่ะ

3. ตากแดดมากเกินไป

แสงแดดถือว่าเป็นปัจจัยหลักที่เป็นตัวการของการเกิดริ้วรอย และจุดด่างดำบนใบหน้าค่ะ เนื่องจาก 70% ของการเกิดความชราของผิวหนังขึ้นอยู่กับแสงแดดที่ผิวได้รับในตลอดช่วงอายุของเรา อีกทั้งยังทำให้ความยืดหยุ่นของผิวลดลงและนำไปสู่ผิวหย่อนคล้อย ซึ่งรังสีต่างๆ ในแสงแดดจะไปเร่งให้คอลลาเจนและอิลาสตินภายใต้ผิวหนังซึ่งล้วนแต่เป็นโปรตีนที่ทำให้ผิวหนังเต่งตึงและเรียบเนียนเสื่อมสภาพเร็วขึ้น โดยผ่านกระบวนการออกซิเดชัน ส่งผลให้ผิวเกิดริ้วรอยและแห้งกร้าน

วิธีแก้ไขเพื่อลดริ้วรอย วิธีการปกป้องผิวจากแสงแดดและรังสียูวีเพื่อลดริ้วรอยที่สามารถทำได้ง่ายๆ คือ การทาครีมกันแดดค่ะ ไม่ว่ากิจกรรมประจำวันของคุณต้องออกไปเผชิญแสงแดดหรืออยู่ในที่ร่มก็ไม่ควรละเลยที่จะทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน และหากต้องออกแดดเป็นเวลานานก็ควรทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมงค่ะ เพียงเท่านี้ก็ช่วยป้องกันและลดริ้วรอยได้ค่ะ

4. แต่งหน้าแล้วขี้เกียจล้างออก

สาวๆ ทั้งหลายที่เหน็ดเหนื่อยจากการทำงานมาทั้งวันบางทีก็ขี้เกียจอาบน้ำ แถมลืมล้างหน้าเช็ดเครื่องสำอางออกด้วย ตื่นมาก็อย่าตกใจนะคะเมื่อส่องกระจกแล้วแทบช็อคที่เห็นหน้าตัวเองในเวอร์ชั่นสุดเหี่ยว แนะนำว่า ถึงจะขี้เกียจแค่ไหนก็ขอให้ล้างเครื่องสำอางออกเถอะค่ะ เพราะเครื่องสำอาง และฝุ่นต่างๆ จะเข้าไปอยู่ในรูขุมขนของเราตอนนอน แถมทำลายคอลลาเจนและความยืดหยุ่นของผิวหน้าอีกด้วย นอกจากมีโอกาสเกิดสิวแล้ว การไม่ล้างเครื่องสำอางจะยิ่งไปกระตุ้นให้ผิวดูเหี่ยว ทิ้งริ้วรอยไว้ให้ดูต่างหาก

วิธีแก้ไขเพื่อลดริ้วรอย เอาเป็นว่า ไม่ว่าคุณจะขี้เกียจอาบน้ำแค่ไหนไม่ว่ากันค่ะ แต่ได้โปรดอย่าลืมล้างเครื่องสำอาง และล้างหน้าให้สะอาด เพื่อช่วยป้องกันและลดริ้วรอยนะคะ

5. ผิวหนังเหี่ยวเพราะพฤติกรรม Yo-Yo

พฤติกรรม Yo-Yo ก็คือการ ขึ้นๆ ลงๆ ของน้ำหนักตัวเรานั่นเองค่ะ ซึ่งนี่ก็เป็นปัญหาหลักๆ ของเพศหญิงซะด้วย ไม่ว่าการ Yo-Yo นั้นจะเกิดขึ้นเพราะเราไปทานยาลดความอ้วน หรือเราออกกำลังกายก็ตามมันก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดี เพราะการ Yo-Yo นั้นทำให้ผิวหนังเรายืดๆ หดๆ ไปมาอย่างต่อเนื่อง และมันจะส่งผลกระทบต่ออัตราความยืดหยุ่นของผิวหนังเรานั่นเอง พูดง่ายๆ  คือ “ยืดแล้วไม่ค่อยจะอยากหด” แล้วผิวของเราจะเหี่ยว ย้อย และบางรายอาจทำให้เกิดรอยแตกลายของผิวหนังได้ค่ะ

วิธีแก้ไขเพื่อลดริ้วรอย ต้องพยายามรักษาเสถียรภาพของน้ำหนักตัวเองค่ะ เมื่อลดน้ำหนักแล้วก็รักษาไว้ให้คงที่ หรือถ้าจะปล่อยให้รูปร่างอวบอัด ก็อย่าปล่อยจากอวบกลายเป็นอ้วนนะคะเพราะเมื่อเวลาผอมแล้วมันจะเหี่ยวจนเห็นริ้วรอยชัดเจน หากเกิดขึ้นแล้วยากต่อการลดริ้วรอยค่ะ

6. สูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์

การสูบบุหรี่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดริ้วรอยบริเวณที่ผิวหนังบอบบางกว่าบริเวณอื่น เช่น หางตา เหนือริมฝีปากบน เป็นต้น ซึ่งริ้วรอยดังกล่าวจะเกิดเร็วกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ถึง 10-15 ปี แถมยังทำให้หน้าแห้งได้ง่าย เนื่องมาจากเมื่อคุณสูบบุหรี่จะทำให้วิตามินซีในเลือดลดลงประมาณ 60% เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ ส่งผลให้คอลลาเจนและอิลาสตินลดลง เพราะว่า วิตามินซีถือว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญในการผลิตโปรตีนดังกล่าว

ในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีผลข้างเคียงทำให้ผิวแห้ง ซึ่งสามารถสังเกตเห็นได้ในเช้าวันรุ่งขึ้น โดยผิวจะดูไม่สดใส และดูไม่มีน้ำมีนวล อีกทั้งในภายภาคหน้า ผิวก็จะสูญเสียความยืดหยุ่น แต่จะเกิดรอยเหี่ยว รอยย่นแทนเนื่องจากการสูญเสียน้ำ นอกจากนี้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังส่งผลโดยตรงต่อวิตามิน A ที่ช่วยสร้างสารต้านอนุมูลอิสระ และคอลลาเจนใต้ผิวหนัง เป็นวิตามินสำคัญในการสร้างเซลล์ให้ร่างกาย หากร่างกายมีปริมาณคอลลาเจนที่น้อยลง ผิวก็จะขาดความชุ่มชื้น ความอ่อนเยาว์ และความยืดหยุ่นไปในตัวค่ะ

วิธีแก้ไขเพื่อลดริ้วรอย สำหรับบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นถ้าลดได้ก็ลดนะคะ เลิกได้ก็เลิก มันไม่ได้ส่งผลดีต่อร่างกายเท่าผลเสียของมันหรอกค่ะ นอกจากนั้นควรดื่มน้ำตามไปเยอะๆ เลย เพราะว่ามันจะทำให้ผิวเราที่แห้งและขาดน้ำกลับมาชุ่มฉ่ำเหมือนเดิม ดังนั้น หากยากป้องกันและลดริ้วรอยก็พยายามเลิกให้ได้ค่ะ

7. เคี้ยวหมากฝรั่ง

สาวๆ คนไหนที่เคี้ยวหมากฝรั่งบ่อยจะสังเกตได้ง่ายมากค่ะ เพราะจะมีริ้วรอยบริเวณรอบปากอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ดูมีอายุเพราะว่ามีรอยย่อนโดยเฉพาะบริเวณปากล่างแถมเคี้ยวมากๆ อาจส่งผลต่อโครงสร้างภายในของปากอีกต่างหาก

วิธีแก้ไขเพื่อลดริ้วรอย แนะนำให้ลดการทานหมากฝรั่งลง เพื่ิอลดริ้วรอยที่เกิดขึ้นนะคะ หรือถ้ากลัวปากเหม็นอาจจะเปลี่ยนเป็นการอมลูกอม หรือหมั่นแปรงฟันบ่อยๆ จะดีกว่าค่ะ

8. โดยสารทางเครื่องบินบ่อยๆ

บางคนออกอาการงงเลยค่ะ ว่าอยู่ในเครื่องบินผิวจะเหี่ยวได้ยังไง เอาเป็นว่าลองนึกดูนะคะ ยิ่งเราในที่สูงแสงแดดยิ่งแรงเพราะไม่ได้ผ่านตัวกรอง และยิ่งเราอยู่บนเครื่องบินแล้วล่ะก็เราจะพบกับแสง UV จากดวงอาทิตย์แบบเต็มๆ ชนิดที่ว่าไม่กรองกันให้เลย ซึ่งเจ้า UV เนี่ยคือศัตรูตัวร้ายที่ทำให้ผิวหนังเราหม่นหมองและเสื่อมสภาพ และมากไปกว่านั้นผิวเราจะแห้งมากกว่าอยู่บนพื้นดินถึง 2 เท่า เพราะอากาศข้างบนนั้นเย็นกว่าข้างล่างมากผิวเราเลยแห้ง การที่ผิวแห้งจะทำให้ผิวของเราขาดความยืดหยุ่น และอาจจะทำให้แตกและเป็นขุยได้ค่ะ

วิธีแก้ไขเพื่อลดริ้วรอย ควรพก Moisturizer ที่มี SPF เป็นส่วนผสมขึ้นเครื่องบินไปด้วย หรือไม่ก็ทาก่อนขึ้นเลยก็ได้ค่ะ เพื่อให้ความชุ่มชื่นลดริ้วรอย (ถ้าใครจะพกก็อย่าให้เกิน 100 มิลลิลิตรนะคะ) และหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ อาหารเค็ม และดื่มน้ำเยอะๆ ระหว่างอยู่บนบิน ส่วนใครที่นั่งริมหน้าต่างแนะนำให้เลื่อนที่บังแดดลงมาด้วยค่ะ

9. ใช้ยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์

ยาบางชนิดมีส่วนผสมของสเตียรอยด์ เช่น ยาแก้หอบหืด ยาแก้โรคไขข้อกระดูก ยาทารอยแผลเป็น รวมไปถึงยาเพิ่มความขาวทั้งหลายทั้งปวง ซึ่งผลเสียของสเตียรอยด์นั้นจะส่งผลต่อปริมาณคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวหนัง และทำให้ผิวหนังบางลง ไม่ทนต่อแดดได้เท่าที่ควร และเมื่อผิวหนังเราไม่มีคอลลาเจนและอิลาสติน แถมยังเจอศัตรูร้ายอย่างแสงอาทิตย์ผิวเราก็มีแต่พังอย่างเดียวค่ะ

วิธีแก้ไขเพื่อลดริ้วรอย สำหรับคนที่ใช้ยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์อยู่โดยไม่มีความจำเป็นนั้น แนะนำให้เลิกใช้เถอะค่ะ แต่ถ้าหากมีความจำเป็นในการใช้ยาประเภทนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แนะนำให้หันมาป้องกันผิวหนังตัวเองด้วยการทาครีมกันแดด การหลบแดดในเวลากลางวัน และตอนกลางคืนให้ทาครีมที่ส่วนผสมของเรตินอล เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนแทนนะคะ

10. การกินแป้งและน้ำตาลเยอะ

อาหารแปรรูปบางประเภทที่มีแป้งเยอะๆ หรือมีน้ำตาลเยอะๆ นั้น สามารถทำให้เราหน้าเหี่ยวได้ค่ะ เพราะอาหารเหล่านี้จะทำให้น้ำตาลในเลือดเราสูงขึ้น ทำให้ชั้นเซลล์ผิวของเราเกิดการอักเสบขึ้นมา แต่การอักเสบนี้ไม่ได้ทำให้เกิดการเจ็บปวดแต่ประการใดนะคะ แต่ผลจากอาการอักเสบจะส่งผลต่อคอลลาเจนและอิลาสตินที่ทนการอักเสบไม่ไหวจนเสื่อมไปตามสภาพค่ะ

วิธีแก้ไขเพื่อลดริ้วรอย พยายามลดทานอาหารที่มีปริมาณของแป้งหรือน้ำตาลเยอะเกินไป แล้วให้เลือกทานผักหรือผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระเยอะ เช่น สับปะรด มะละกอ ฝรั่ง ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ผลไม้รสเปรี้ยว ฯลฯ เพื่อลดริ้วรอย แถมพ่วงด้วยสุขภาพที่ดีด้วยค่ะ

ที่มา https://romrawin.com/

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม อาหารเพื่อสุขภาพออนไลน์
http://smartboyshopping.lnwshop.com/

Saturday, July 17, 2021

สุขภาพผู้ชายวัย 50 ดูแลอย่างไรให้แข็งแรง สุขภาพดี

 

ลดความอ้วน


ยิ่งอายุมากขึ้น ก็จำเป็นที่จะต้องดูแลตัวเองให้ดีขึ้น ระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่วัย 50 เป็นวัยที่ต้องระมัดระวังในทุกๆ เรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรับประทานอาหาร การใช้ชีวิต กิจกรรมที่ทำ วันนี้ Hello คุณหมอ มีเคล็ดลับที่น่าสนใจเกี่ยวกับ สุขภาพผู้ชายวัย 50 ว่าต้องดูแลตัวเองอย่างไร ให้แข็งแรงและสุขภาพดี

แนวทางการดำเนินชีวิตเพื่อ สุขภาพผู้ชายวัย 50

เมื่อชีวิตเข้าสู่ช่วงอายุ 50 ปีแล้วจำเป็นที่จะต้องดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ซึ่งแนวทางในการดำเนินชีวิตในช่วงวัย 50 นั้นก็ไม่ต่างจากวัยอื่นๆ เลย แต่จำเป็นที่จะต้องเคร่งครัดและดูแลให้ดีกว่า

หากคุณปฏิบัติตามแนวทางด้านบนอย่างเคร่งครัดแล้วละก็ ชีวิตในวัย 50 ก็จะแข็งแรง สุขภาพดี แถมยังลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน แม้จะอายุมากแล้ว แต่ก็ยังไม่สายเกินไปที่จะหันมารักสุขภาพ เริ่มดูแลตัวเองเร็วเท่าไร ก็ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเร็วเท่านั้น แถมยังช่วยให้มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย

ความสำคัญของอาหารสำหรับผู้ชายวัย 50

การรับประทานอาหารนั้นส่งผลต่อสุขภาพมากมาย หากเราเลือกรับประทานอาหารที่มีผัก ผลไม้ โปรตีนที่ดี ก็จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน มีพลังงานในการทำกิจกรรมต่างๆ หากเลือกรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลมาก ไขมันสูง ก็อาจไปเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ ดังนั้นการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดีต่อสุขภาพในช่วงอายุ 50 ปีนั้นถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก หากรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการอย่างครบถ้วน ก็ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคอ้วน และโรคมะเร็งบางชนิดได้อีกด้วย

ซึ่งอาหารที่ผู้ชายวัย 50 ควรเลือกรับประทานควรจะเป็นผัก ผลไม้ ธัญพืช อาหารไขมันต่ำ เนื้อลีน ปลา ถั่ว พืชตระกูลถั่ว ไข่ ซึ่งอาหารเหล่านี้เป็นแหล่งของโปรตีนที่ดี ซึ่งโปรตีนมีส่วนช่วยในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ช่วยส่งเสริมกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง ของมัน ของทอด น้ำตาล และเกลือ

กิจกรรมที่เหมาะสมสำหรับผู้ชายวัย 50

การทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายที่ได้เคลื่อนไหวร่างกายนั้นถือว่าเป็นกิจกรรมที่ดีที่สุด สำหรับผู้ชายที่มีอายุ 50 ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้มีส่วนช่วยให้สุขภาพหัวใจแข็งแรง ส่งเสริมกล้ามเนื้อให้มีความแข็งแรง นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความสมดุลให้กับร่างกายอีกด้วย

ที่สำคัญการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนั้นยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคความจำเสื่อมอีกด้วย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมีคำแนะนำว่าควรออกกำลังกาย ความเข้มข้นในระดับปานกลางอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ และออกกำลังกายที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้ออย่างน้อย 2 วันต่อสัปดาห์ สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวอื่นๆ หรือไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อเป็นแนวทางในการเลือกออกกำลังกาย

ที่มา

https://hellokhunmor.com/%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E/%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A2/%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A2-50-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E/

Ad. ฮอร์โมนเพศชายเสริมสำหรับผู้ชายวัยทำงาน วัยทอง ทอม ทรานส์แมน  www.smartboyshopping.com

Saturday, July 3, 2021

Treatment of Low Testosterone: Before and After Results and Research

 Treatment of Low Testosterone Before and After Results

A “testosterone before and after the replacement therapy, how does it feel?” This is the question that bothers many men before starting the treatment. Is it worth it? What to expect? Is there a health hazard? Is a low T self-diagnosis true? This article will help you to find out the answers to all these questions.

As you probably know, testosterone primarily affects muscle building and libido strength. It also has an impact on many other hormone receptors that are located in the human body. Because of this, the discomfort brought by low testosterone levels is not limited to a lack of results in the gym and bedroom, so do not leave the T hormone deficiency untreated. If you’ve previously self-diagnosed the possible low T, be sure to consider professional diagnostics.

There are a lot of drug options to obtain testosterone results before and after the therapy and make sure they are perfect. It can be a well-controlled dosage and inexpensive testosterone injection, a patch, or skin and nasal gel, a capsule implanted under the skin, a buccal “tablet” and other types of testosterone drugs. Every patient can choose the best option for themselves.

Of course, only an endocrinologist can make an official diagnosis based on one or two blood tests (these may be covered by insurance). The good news is that in recent years testosterone replacement therapy (TRT) has become more effective than ever before and can eliminate all of the following 8 signs of low T.

Signs of Low T

Reduced Sex Drive

lowered libido is one of the most common signs of low testosterone levels. As statistics show, every man who had complaints of low T levels suffered from low sex drive. In addition to a reduced desire for sex, men with insufficient hormone levels have a reduced desire for masturbation, fewer sexual fantasies, and the absence of erotic dreams.

The areas of the brain responsible for sexual desire, including the amygdala, are filled with testosterone receptors, and the hormone activates them like a key in the ignition switch. When testosterone levels are low, the activation does not occur and therefore sexual desire remains weak. Decreased libido due to the lack of T hormone, in turn, provokes problems with erection, although testosterone does not directly cause any erectile issues.

The Decrease in Muscle Mass

Testosterone helps in muscle building. This process allows the body to produce and assemble proteins that form the building blocks of human muscles. If the testosterone level is low, then the body is in a catalytic state, when muscle tissue is destroyed.

Before and After Testosterone Therapy Sad Man

Patients with low testosterone levels observe a strong decrease in muscle mass in several weeks after the hormone levels drop. Studies conducted in Japan show that men with low levels of the T-hormone had an increased risk of entering a catabolic state by 2/3 times compared with men of the same age, but with normal blood testosterone levels.

Reduction of Genitals

Due to the lack of the required level of testosterone in the blood, the tissues of the penis, scrotum, and testicles begin to atrophy. For this reason, the penis loses in length and volume. Patients notice that their testicles also decrease in size (up to 50%), and become soft on touch. In the case of the testicles, the process is most likely irreversible, but concerning the size of the penis, TRT brings good chances of returning it to its previous state, and sometimes even increasing its size.

Increase in Body Fat

Studies in Australia have shown that low testosterone levels in men increase the activity of an enzyme called lipoprotein lipase. This enzyme provokes lipids to enter the cells of visceral fat increasing its amount. Due to this, in men who had low testosterone levels during the year, the total amount of body fat increased by 14%, and the amount of visceral fat by 22%.

Memory Problems

Cognitive and memory problems are common in people with low testosterone levels. According to research conducted in 2015, in men with low T hormone levels, cognitive functions and the ability to remember information significantly decreased. The brain areas responsible for memory and attention have testosterone receptors, so when T-hormone does not penetrate these receptors, some areas of the brain stop functioning well enough. The treatment quite effectively eliminates this problem in about six months.

Constant Bad Mood

Of course, the presence of the mentioned above problems can already cause a bad mood. But besides this, low testosterone levels are an ‘instigator’ of a constant bad mood and even depression. More than 23% of people diagnosed with low T levels have depression.

So, as in the case of poor memory, that happens because human brain receptors are not filled with testosterone at the proper level. An additional problem is that constant bad mood and depression trigger a ‘vicious cycle’ in which these mental factors forward exacerbating testosterone production in the testes.

Deterioration of Bone Condition

Human bone is a living tissue that often breaks down and repairs itself. If a person has a low testosterone level, then his/her bones become brittle, and the body does not have time to restore them properly. Thus, men have an increased risk of osteoporosis and bone fractures. The studies have shown that testosterone results before and after in terms of bone condition noticeably shifted for the better after testosterone treatment (on average after one year of the therapy).

The Risk of Heart Disease

Testosterone replacement therapy has a positive effect on the condition of the heart in men with cardiovascular issues. Testosterone promotes better blood circulation in the body. Men predisposed to blood clots should treat TRT very carefully because the therapy can cause the worsening of their condition or some complications, according to UK studies.

For this reason, both the benefits and risks should be discussed with a doctor before starting the treatment. During the therapy, the dosage and frequency of medications containing T hormone may be changed to create and adjust the most suitable conditions to supply your body with testosterone.

Before and After Testosterone Treatment Results

If you compare testosterone before and after results you’ll notice it is like to be young again. Although the treatment process is long, you can find positive changes in your health after a few months of therapy.

You already know what problems men face with a lack of testosterone, now we will talk about what the patient expects when starting TRT. It is not just a list of positive testosterone results before and after (although, they are here). These are general indications gathered from several large-scale studies of how people feel when taking hormone replacement therapy with testosterone.

Testosterone injection significantly increase sexual drive

With low levels of testosterone in the blood, the desire to have sex drops dramatically. When you take testosterone, and your T hormone levels return to a normal state, the androgen receptors in the part of your brain that controls desire begin to act like in a healthy person.

Testosterone Replacement Therapy Before and After Pictures of Men

The restoration of a healthy sex drive is one of the most important and relevant benefits of TRT. In addition to libido restoration, hormone therapy can also improve the erection as testosterone acts on some receptors in the penis, allowing it to capture blood better and maintain an erected state for longer.

However, for men suffering from erectile dysfunction, testosterone replacement therapy alone will not be enough to completely restore a stable erection, since TRT acts as an accompanying medication in the treatment of erectile dysfunction but not the only way to cure it.

Testosterone therapy before and after photos of muscle growth

Muscle mass shows a very high sensitivity to testosterone, and therefore, perhaps the most noticeable effect of treatment will be a significant increase in muscles. The androgen receptors located in muscle tissue are activated by the hormone and stimulate further muscle growth.

Of course, to see the full effect of testosterone therapy on muscle mass it is not enough to just sit and wait. You will need to go to the gym to train and bring the effect of therapy to the maximum. Many TRT patients report not only significant muscle growth but fat loss as well.

Although testosterone is not directly a weight loss agent, it can contribute to weight loss. Such happens because when the amount of muscles in a person increases, the basal metabolic rate also becomes higher, and the body burns more calories while at rest. Studies conducted in India have shown that weight loss occurs because testosterone motivates a person to get up and do something, thus generally increasing the activity of life.

You will become hardy as if you are 20 again

Most men who come to the doctor with a complaint about low testosterone levels also have complaints about low stamina. When they undergo treatment, their stamina is restored and improved significantly. Dozens of testosterone before and after reviews confirm this.

Testosterone affects mitochondria that produce energy inside cells. T hormone activates intracellular mitochondria, and therefore the cells in the body receive more energy.

Another theory about why TRT improves stamina is the effect of this hormone on the androgen receptors, which, due to the lack of sufficient testosterone, do not work at the proper level, and thus cause increased fatigue.

Overall mood improvement

Many patients admit that testosterone therapy improves their mood. The human brain is a complex thing, so it is difficult to give a complete answer to why men get rid of constant despondency, but if to compare testosterone before and after, the situation after treatment is better.

The general opinion why this happens is that a person begins to feel healthy and not constantly tired, and, as a result, their mood rises. A 2012 study conducted in the United States confirmed that after 12 months of therapy, the number of TRT patients with symptoms of depression decreased from 17% to 2%, and newer studies also prove this fact.

In addition to the already listed improvements in mood, a person who has finished a TRT cycle can completely get rid of the remaining signs of low T.

Possible Risks Before and After Testosterone

If the dose of the T-hormone is chosen correctly, and you bought testosterone injection in a US-based licensed pharmacy, then the chance of side effects is very small. To understand what risks self-medication with T hormone can cause let’s list the possible risks.

Decreased size of testes (in case of TRT without hCG)

In a normal condition, the pituitary gland sends out a luteinizing hormone to signal the testicle to produce more testosterone. When you start TRT, the pituitary gland will assume that there is always enough T hormone in your bloodstream and will stop sending signals to the testicles to produce it. So, testicles may be dormant (when they do not produce testosterone or sperm at all).

To avoid shrinkage of the testes a doctor prescribes hCG (Human Chorionic Gonadotropin) which is a drug that helps to stimulate the testes to produce testosterone naturally. It is prescribed with testosterone to prevent the testicles from shrinking during treatment.

hCG allows saving fertility while leaving the testes in the same condition they have been when the T-hormone levels were ok. Sometimes a man should undergo overall diagnostics to determine if his HGH (human growth hormone) is at the required levels, if it is not, then testosterone therapy is combined with HGH replacement for better results and fewer risks.

Swelling of the feet and ankles

This side effect is observed when the amount of testosterone in the body increases and the brain tries to retain a certain amount of fluid in the body. The side effect does not cause any discomfort and goes away within a few days without additional treatment. In many patients, such swelling is not observed at all. Most often, the side effect takes place when a man has taken a large dose of testosterone at once. Don’t overdose on your medication!

Testosterone Injections Before and After Photos Happy Older Man

Skin changes

With testosterone replacement therapy, the patient’s skin condition can change both for the better or worse. There is only one reason for this – the increased amount of sebum produced (due to TRT), which is not always a bad thing. Complaints about this side effect were received mainly from those men whose skin itself is oily, and because of TRT, they had rashes. This side effect is quite rare and caused by a one-time overdosing.

Gynecomastia (rare)

In every man, regardless of whether one is undergoing testosterone therapy or not, a part of this hormone is transformed into estradiol (the form of estrogen). In men who naturally have large breast tissue, high doses of testosterone can cause mammary feminism.

This side effect is called gynecomastia, but it is quite rare (perhaps one of the rarest TRT side effects). Nevertheless, if it happened, then you should immediately seek treatment from an endocrinologist who will stop testosterone therapy for 1-2 months, after which you will resume treatment combined with taking a drug that blocks the conversion of testosterone into estradiol.

Other risks

TRT has long had been suspected to be the cause of heart attacks, strokes, and prostate cancer. All the statements, however, have always been quite contradictory, and in recent years, some of them have been debunked one after another.

As for heart attacks, the main concern among specialists is that testosterone can thicken the blood (it binds to androgen receptors that stimulate the bone marrow to form more blood cells). Thick blood is one of the factors that increase the risk of heart attack and stroke. At the same time, there is no convincing evidence that these heart diseases are associated exclusively with testosterone.

If you are afraid of such risks, then you should carefully monitor your condition during treatment (keep a diary of a health state) and ask a doctor for consultation.

Concerning the increased risk of prostate cancer, there are no specific factors that would blame the T-hormone. There are androgen receptors in the prostate, and therefore testosterone theoretically could promote its growth. Still, this side effect should be expected only by those men whose prostate is already enlarged and makes it difficult to urinate.

For them, it is necessary to initially undergo a more thorough medical examination, which will be able to say for sure whether it is worth undergoing testosterone replacement therapy or not. If a man already has prostate cancer, then testosterone will probably aggravate this situation, but there is no evidence that TRT is the cause of this type of cancer.

Conclusion

Now you know what testosterone results before and after are possible. You also have been warned of the possible risks and main side effects. Testosterone replacement therapy is indicated to men with officially diagnosed low T and consequent disorders.

It is not recommended to take the therapy for healthy men without the diagnosed low T because it can cause overbalance and possible harm to their health. Of course, to say “yes” or “no” to the therapy is only up to you, but the main thing to remember is that you should not try to get testosterone injection without a prescription and do not start the treatment without proper consultation with an endocrinologist.

Be sure to obtain your medication in legitimate pharmacies and follow all doctor’s instructions when taking the treatment. Don’t forget to contact us any time if you’ve got any doubts, concerns, or suggestions, we are happy to advise the most suitable resolution for your particular health issue, your budget, your age, and your expectations.


thank you. https://hrtus.com/


Ad. ฮอร์โมนเพศชายเสริมสำหรับผู้ชายวัยทำงาน วัยทอง ทอม ทรานส์แมน  www.smartboyshopping.com

Friday, July 2, 2021

เจาะลึก “วัยทองในผู้ชาย” เรื่องอะไรที่ชายสูงวัยต้องระวัง

 




พญ.อยุทธินี สิงหโกวินท์ แพทย์หัวหน้าศูนย์เบาหวานและต่อมไร้ท่อ รพ.พญาไท 2

นอกจากผู้หญิงวัยทองแล้ว หลายคนก็คงยังไม่ทราบว่าผู้ชายวัยทองก็มีเหมือนกัน เพราะวัยทองไม่ใช่เรื่องที่เกิดกับผู้หญิงเท่านั้น แต่สามารถเกิดกับผู้ชายได้เช่นกัน เพียงแต่เราอาจจะพบเห็นได้ไม่บ่อยเท่ากับวัยทองในผู้หญิง ซึ่งวัยทองในผู้ชายนั้นจริงๆ แล้วไม่ได้ต่างจากผู้หญิงสักเท่าไหร่ พญ.อยุทธินี สิงหโกวินท์ แพทย์หัวหน้าศูนย์เบาหวานและต่อมไร้ท่อ รพ.พญาไท 2 จะมาพูดคุยถึงเรื่องนี้ให้ได้ทราบกัน...

ทำความรู้จัก “วัยทอง” ให้มากขึ้น...

วัยทอง หรือ(Golden age) หมายถึง วัยแห่งความสำเร็จในชีวิตการงาน  แต่ในวัยนี้สุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจนั้นจะถูกบั่นทอนจากความเสื่อมของร่างกายตามอายุที่มากขึ้น และความบกพร่องของฮอร์โมนเพศ ซึ่งมีอิทธิพลต่อบทบาทในการทำหน้าที่ของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย ทำให้เกิดอารมณ์แปรปรวน ร้อนวูบวาบ และอาการต่างๆ ตามมา

เพราะฮอร์โมนเป็นตัวกำหนดความเป็นหนุ่มเป็นสาว

ฮอร์โมนเป็นตัวกำหนดความเป็นหนุ่มสาวในร่างกายของคนเรา โดยในผู้หญิงฮอร์โมนที่มีบทบาทสำคัญต่อชีวิตคือฮอร์โมนเอสโตรเจน แต่สำหรับผู้ชายฮอร์โมนที่มีผลต่อสมรรถภาพ และความแข็งแรงของร่างกายคือฮอร์โมนที่ชื่อว่า แอนโดรเจน หรือ Testosterone ซึ่งสร้างจากฮอร์โมนเพศชายที่มีปริมาณมากที่สุดในช่วงอายุยี่สิบต้นๆ และจะลดลงอย่างช้าๆ เมื่ออายุมากขึ้นหลัง 40 ปี และเมื่ออายุมากขึ้น ฮอร์โมนแอนโดรเจนก็จะลดลงเรื่อยๆ และการลดลงของฮอร์โมนนี้เองที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ใน....วัยทอง

อาการวัยทองของผู้ชายแบ่งออกได้เป็น

  • อาการทางด้านร่างกาย จะมีอาการอ่อนเพลีย เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว เหงื่อออกมาก นอนไม่ค่อยหลับ กำลังวังชาลดลง เบื่ออาหาร ปวดเมื่อยตามตัวโดยไม่มีสาเหตุ ไม่กระฉับกระเฉง กล้ามเนื้อต่างๆลดขนาดลง ไม่มีแรง

  • อาการทางด้านจิตใจ จะรู้สึกเบื่อหน่าย ไม่มีแรงจูงใจในการทำอะไร เป้าหมายในชีวิตเปลี่ยนไป เศร้า เหงา เครียดและหงุดหงิดง่าย โกรธง่าย เฉื่อยชา ขี้บ่นมากขึ้น ขี้น้อยใจเพิ่มขึ้น ไม่อยากไปไหน อยากอยู่คนเดียว นอนไม่หลับ หรือหลับไม่สนิท ตื่นมาไม่สดชื่น ขาดสมาธิในการทำงาน ความจำลดลง โดยเฉพาะความจำระยะสั้น

  • สุขภาพทางเพศ สมรรถภาพทางเพศและความต้องการทางเพศลดลง หรือไม่มีอารมณ์เพศ บางคนเกิดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศด้วย เนื่องจากฮอร์โมนเพศชายเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอารมณ์เพศเมื่อระดับฮอร์โมนเพศชายลดลงจึงไม่เกิดอารมณ์ที่จะมีเพศสัมพันธ์และอวัยวะไม่แข็งตัว

  • กระดูกและกล้ามเนื้อ ผลของการขาดฮอร์โมนเพศชายจะทำให้กระดูกบางลง เป็นโรคกระดูกพรุนได้ เช่นเดียวกับผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน นอกจากนี้กล้ามเนื้อจะค่อยๆ ลดขนาดลง มีความแข็งแรงของกล้ามเนื้อลดลง

ปัจจัยอะไรที่ทำให้วัยทองเกิดได้เร็วกว่าปกติ..

ปัจจัยที่ทำให้อาการวัยทองเกิดได้เร็วกว่าปกติคือเรื่องของกรรมพันธุ์ การทำงานหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด   ความอ้วน การดื่มเหล้า สูบบุหรี่ โรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันเลือดสูง โรคตับ ไตวาย

ซึ่งการรักษาอาการของผู้ชายวัยทองขึ้นอยู่กับอาการที่เกิดขึ้นในแต่ละบุคคลอันดับแรกคือการปรับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่นการดื่มเหล้า สูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ โดยในผู้ป่วยบางรายอาจต้องใช้การรักษาทางยาร่วมด้วย คือการใช้ยาฮอร์โมนเพศชายเสริมมีตั้งแต่ชนิดกิน ชนิดฉีดและชนิดเจลทาผิว     ซึ่งผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้งก่อนการใช้ยา เพราะอาจมีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้หากใช้ไม่ถูกต้อง 

ผู้ชายทั้งหลายจึงควรเตรียมตัวให้พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น โดยการเริ่มดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ มีวินัยในการดำเนินชีวิตที่ดี พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง งดสูบบุหรีและดื่มเหล้า กินอาหารที่มีประโยชน์ถูกสัดส่วน ลดอาหารประเภทน้ำตาลและไขมันให้น้อยที่สุด หลีกเลี่ยงความเครียดออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอและควรพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายเป็นประจำเพื่อตรวจหาโรคที่พบได้บ่อยในวัยนี้เพื่อจะได้รับการรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มแรก เช่นโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ โรคตับ โรคไต ต่อมลูกหมากโต

“วัยทองเป็นกฎของธรรมชาติ ซึ่งทุกอย่างก็จะเสื่อมถอยลงไปตามธรรมชาติ สิ่งที่จะช่วยให้เราปรับตัวได้ดีก็คือ การรักษสุขภาพให้แข็งแรง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ รับประทานอาหารให้ถูกหมวดหมู่ เราไม่สามารถเอาชนะมันได้ แต่เราสามารถจัดการชีวิตของเราให้ลงตัวได้” พญ.อยุทธินี สิงหโกวินท์ แพทย์หัวหน้าศูนย์เบาหวานและต่อมไร้ท่อ รพ.พญาไท 2



พญ.อยุทธินี สิงหโกวินท์

แพทย์หัวหน้าศูนย์เบาหวานและต่อมไร้ท่อ

ศูนย์เบาหวานและต่อมไร้ท่อ โรงพยาบาล พญาไท 2

โทร.02-6172444

https://www.phyathai.com/


Ad. ฮอร์โมนเพศชายเสริมสำหรับผู้ชายวัยทำงาน วัยทอง ทอม ทรานส์แมน  www.smartboyshopping.com