Saturday, February 24, 2024

ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ที่ลดต่ำ กับความต้องการทางเพศ

 

ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ที่ลดต่ำ กับความต้องการทางเพศ

    ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ที่ลดต่ำ กับความต้องการทางเพศ

    การสูญเสียแรงขับทางเพศเป็นปัญหาที่อาจพบได้บ่อย โดยอาจมีสาเหตุมาจากความเครียดในเรื่องต่าง ๆ เช่น ชีวิตส่วนตัว การทำงาน การเปลี่ยนแปลงในชีวิตด้านต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม แรงขับทางเพศที่หายไป โดยเฉพาะเมื่อหายไปเป็นเวลานาน หรือเกิดขึ้นเรื่อย ๆ ก็อาจบ่งชี้ถึงปัญหาอื่นที่ซ่อนอยู่ก็เป็นได้ และหนึ่งในปัญหาที่พบบ่อยในผู้ชาย คือ ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ที่ลดต่ำลง

    ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน คืออะไร

    เทสโทสเตอโรน (Testosterone) คือ ฮอร์โมนเพศชายที่อยู่ในกลุ่มฮอร์โมนแอนโดรเจน ซึ่งมีหน้าที่สำคัญอย่างมากในช่วงเข้าสู่วัยรุ่น และอาจมีหน้าที่ในการช่วยกำหนดลักษณะของเพศชาย เช่น อวัยวะเพศชายและลูกอัณฑะโตขึ้น เสียงแตก กล้ามเนื้อและกระดูกแข็งแรงขึ้น ความสูงเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ หลังช่วงแตกเนื้อหนุ่มหรือเข้าสู่วัยรุ่น เทสโทสเตอโรนอาจมีส่วนช่วยในการทำงานของร่างกาย ดังนี้

    • การสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง
    • การสร้างมวลกระดูก
    • การกระจายของไขมันในร่างกาย
    • การสร้างขนบนใบหน้าและตามร่างกาย
    • การสร้างอสุจิ
    • การสร้างแรงขับทางเพศ
    • การแข็งตัวของอวัยวะเพศ

    • ความสำคัญของ ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน กับผู้ชาย

    • เทสโทสเตอโรน คือ ฮอร์โมนเพศชายที่อยู่ในกลุ่มฮอร์โมนแอนโดรเจน ซึ่งมีหน้าที่สำคัญอย่างมากในช่วงเข้าสู่วัยรุ่น และอาจมีหน้าที่ในการช่วยกำหนดลักษณะของเพศชาย มื่อระดับเทสโทสเตอโรนลดต่ำลง อาจทำให้ความต้องการทางเพศลดลง อ่อนเพลีย หมดแรง และอาจทำให้เกิดอาการซึมเศร้าได้ โดยระดับเทสโทสเตอโรนจะเริ่มลดต่ำลงหลังจากอายุ 40 ปี และอาจลดลงมากขึ้น เมื่ออายุ 70  ปี โดยการตรวจเลือดอาจบอกได้ว่า ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำหรือไม่

      ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน และบทบาทในเรื่องแรงขับทางเพศ

      ความต้องการทางเพศของผู้ชายอาจจะค่อย ๆ ลดลงอย่างช้าๆ จากจุดสูงสุดในช่วงวัยรุ่นและวัยเลขสอง แต่แรงขับทางเพศของผู้ชายก็แตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงของแรงขับทางเพศในผู้ชายยังอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยอื่น ๆ ด้วย เช่น ความเครียด การนอนหลับ โรคเรื้อรังประจำตัว โอกาสในการมีเพศสัมพันธ์ นอกจากนี้ การที่ร่างกายมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำยังอาจทำให้แรงขับทางเพศและความต้องการทางเพศลดลง

      การให้เทสโทสเตอโรนทดแทน

      การให้เทสโทสเตอโรนทดแทนอาจมีหลายแบบ เช่น

      • การฉีด มักเป็นการฉีดฮอร์โมนทุก 3 หรือ 4 สัปดาห์ หรือทุก 3 เดือน เป็นการฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
      • การทาเจลเทสโทสเตอโรนลงบนผิวในตอนเช้า
      • การฝังฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน เป็นการฝังแคปซูลฮอร์โมนลงใต้ผิว วิธีการนี้มักนำมาใช้มากขึ้น เพื่อแทนการฉีดฮอร์โมนทุก ๆ 3 เดือน

      ในระหว่างการรักษา ควรมีการตรวจระดับเทสโทสเตอโรนเพื่อสังเกตดูอาการ ถ้าจำเป็นเพื่อการปรับขนาดของฮอร์โมนที่ให้ จะได้ทำให้แน่ใจว่าฮอร์โมนคืนสู่ระดับปกติ

      ถ้าผู้ป่วยมีปัญหามะเร็งต่อมลูกหมาก คุณหมอไม่แนะนำให้ใช้การให้เทสโทสเตอโรน ดังนั้นก่อนใช้การให้ฮอร์โมนทดแทน ควรมีการตรวจต่อมลูกหมากก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีปัญหาเรื่องมะเร็งต่อมลูกหมาก

    • ที่มา https://hellokhunmor.com/

    • No comments:

      Post a Comment